แปลงสาธิต

แปลงสาธิต

        จากการจัดเรียงลำดับความสำคัญของชนิดไม้/กลุ่มของชนิดไม้ เป็น 2 กลุ่มใหญ่ ซึ่งสอดคล้องกับการจัดเครือข่ายความร่วมมือ และจัดลำดับตวามสำคัญของชนิดไม้ในแต่ละกลุ่มตามโครงการชุมชนไม้มีค่าโดยให้ความสำคัญกับไม้มีค่าทางเศรษฐกิจก่อน โดยกลุ่มไม้โตเร็ว ในช่วงแรกให้ความสำคัญกับ ยูคาลิปตัส กับอะเคเซีย ในขณะที่กลุ่มไม้เศรษฐกิจรอบตัดฟันยาว ในช่วงแรกให้ความสำคัญกับไม้สัก และขยายการดำเนินงานไปยังไม้ชนิดอื่น เช่น พะยูง แดง ประดู่ มะค่าโมง เป็นต้น ซึ่งการจัดทำแปลงสาธิตในปีแรกได้จัดทำแปลงสาธิตการปลูกไม้ยูคาลิปตัสเชิงเดี่ยว การปลูกไม้ยูคาลิปตัสผสมผสานไม้พื้นเมือง และการปลูกไม้พื้นเมืองในระบบวนเกษตร และในปีที่สองจะดำเนินการจัดทำแปลงสาธิตการปลูกไม้รอบตัดฟันยาว เช่น ไม้สัก และพะยูง เป็นต้น โดยมีรายละเอียดแปลงสาธิตในปีแรกดังนี้

แผนที่แสดงขอบเขตพื้นที่สถานีฯ และแปลงสาธิตของศูนย์กลางการเรียนรู้ไม้เศรษฐกิจแบบครบวงจร

แปลงปลูกยูคาลิปตัสร่วมกับไม้ป่า

เป็นแปลงที่มีการปลูกผสมระหว่างไม้ยูคาลิปตัสและไม้ป่า พื้นที่ขนาด 10 ไร่ เพื่อสาธิตแสดงให้เห็นว่าไม้ป่าหรือไม้พื้นเมืองสามารถปลูกเจริญเติบโตร่วมกับยูคาลิปตัสได้หรือไม่ โดยไม้ป่าที่ได้นำมาปลูกร่วมได้แก่ พยูง ยางนา ตะเคียนทอง สนสามใบ รัง สัก นนทรีป่าและไผ่ ได้ทำการปลูกตั้งแต่ปี พศ. 2562 โดยปลูกร่วมกับไม้หน่อยูคาลิปตัสที่ขณะนั้นมีอายุประมาณ 3 ปี

แปลงปลูกไม้มีค่าร่วมกับพืชเกษตร

มีการปลูกไม้ป่า 20 ชนิด (ปลูกในปี พศ 2566)  และแต่ละชนิดมีอัตราการรอดตาย ดังนี้ นนทรีป่า และพะยูง (100%) แดง (99%) กระถินเทพา (97%) ขี้เหล็กบ้าน (96.77%) มะค่าแต้ (95.00%) สะเดา (94.00%) สัก (92.96%) มะเกลือ (92.00%) พะยอม (91.50%) มะขาม (87.00%) มะค่าโมง (86.00%) ตะเคียนทอง (85.50%) มะหาด (82.83%) ยางนา (81.87%) เพกา(77.39%) ชิงชัน (75.76%) หว้า (70.71%)) มะฮอกกานี (58.03%) และ ยอบ้าน (25 โดยปลูกร่วมกับพืชเกษตรระหว่างแถว (มันสำปะหลัง) ในรูปแบบของวนเกษตร พื้นที่รวม 10 ไร่ โดยมีการบริหารจัดการแปลงแบบมีส่วนร่วม กล่าวคือการให้เกษตรกรที่ได้รับการคัดเลือกจากชุมชนในพื้นที่ซึ่งยากไร้ ไม่มีที่ดินทำกินเป็นผู้มีสิทธิปลูกพืชเกษตร (มันสำปะหลัง) และช่วยปลูกต้นไม้ ดูแลจัดการวัชพืช บำรุงรักษาให้กับกล้าไม้ป่าที่ปลูก ซึ่งเกษตรกรสามารถปลูกและเก็บเกี่ยวผลผลิตจากพืชเกษตรในระหว่างที่ต้นไม้ยังไม่โตได้ในระยะ 2-3 ปี แรก

แปลงยูคาลิปตัสไว้หน่อ

เป็นพื้นที่แปลงปลูกยูคาลิปตัสที่มีการตัดฟันรอบที่ 1 ในปี 2565 มีระยะปลูก 1.5 x 2 เมตร โดยเป็นแปลงที่ได้คัดเลือกให้ไว้หน่อ ได้ดำเนินการตัดแต่งหน่อ และกำจัดวัชพืช ในช่วงเดือนมีนาคม 2566 โดยแบ่งรูปแบบการจัดการหน่อเป็น 3 รูปแบบ ได้แก่ การจัดการแบบเหลือไว้ 1 หน่อ 2 หน่อ และ 3 หน่อ ขนาดพื้นที่รวม 35 ไร่ โดยข้อมูลในแปลงสาธิตเหล่านี้ พบว่า

  • แปลงสาธิตการจัดการแบบไว้ 1 หน่อ มีจำนวน 271 ต้น/ไร่ DBHเฉลี่ย 4.51 ซม. ความสูงเฉลี่ย 6.29 เมตร มวลชีวภาพเหนือพื้นดิน 1.32 ตัน/ไร่ ปริมาณกักเก็บคาร์บอน 0.62 ตันคาร์บอน/ไร่
  • แปลงสาธิตการจัดการแบบไว้ 2 หน่อ มีจำนวน 280 ต้น/ไร่ DBHเฉลี่ย 4.03 ซม. ความสูงเฉลี่ย 4.72 เมตร มวลชีวภาพเหนือพื้นดิน 0.77 ตัน/ไร่ ปริมาณกักเก็บคาร์บอน 0.36 ตันคาร์บอน/ไร่
  • แปลงสาธิตการจัดการแบบไว้ 3 หน่อ มีจำนวน 400 ต้น/ไร่ DBHเฉลี่ย 3.56 ซม. ความสูงเฉลี่ย 5.05 เมตร มวลชีวภาพเหนือพื้นดิน 0.86 ตัน/ไร่ ปริมาณกักเก็บคาร์บอน 0.40 ตันคาร์บอน/ไร่

แปลงยูคาลิปตัสปลูกใหม่

เป็นแปลงยูคาลิปตัส (สายพันธุ์ K58)ที่ปลูกในเดือนธันวาคม พศ.2565 ด้วยระยะปลูก 1.5 x 3 เมตร ขนาดพื้นที่ 10 ไร่ โดยมีจำนวน 289 ต้น/ไร่ DBHเฉลี่ย 3.54 ซม. ความสูงเฉลี่ย 3.34 เมตร มวลชีวภาพเหนือพื้นดิน 0.42 ตัน/ไร่ ปริมาณกักเก็บคาร์บอน 0.20 ตันคาร์บอน/ไร่

พื้นที่แปลงสาธิต